วันอังคารที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2562

บันทึกปี 2019

31 ธันวาคม 2562, 20.50 นาที

วันนี้มีภาระกิจที่ต้องทำคือ การอ่านหนังสือสอบ แต่ขอตัวเองในช่วงเวลานี้  ขอจัดการกับความรู้สึกของตัวเองก่อนสิ้นปี เพราะมันก็สำคัญมากต่อการใช้ชีวิตในปีต่อไป

วันนี้วันสุดท้ายของปี 2562 ปีที่ต้องต่อสู้กับความอ่อนแอทางด้านจิตใจอย่างหนัก ปีที่พยายามจะใช้ชีวิตต่อไปให้ได้อย่างเข้มแข็ง ใช้ชีวิตให้ผ่านไปในแต่ละวันให้ได้ มานั่งอ่านโพสในอินสตาแกรม เมื่อวันที่ 30 ธ.ค. 2561
        "มองคนบนฟ้าอยู่นะ ความเจ็บปวดจากการสูญเสียคนรัก เข้าใจแล้วว่ามันรู้สึกยังไง ภาพและเสียงคุณมันจัดเจนขึ้นนะหลังจากที่คุณไม่อยู่แล้ว  10 ปี ที่เรารู้จักกัน ไม่มีวันไหนที่เราไม่คิดถึงกันไม่ว่าเราจะอยู่ในสถานะไหนตอนนี้ฉันยังมีลมหายใจ ฉันก็ยังคิดถึงคุณทุกวัน ความคิดถึงของคุณที่ส่งกลับมาตอนนี้มันคงเป็นความรู้สึกอบอุ่น คำหวานๆที่นึกถึง การให้ความมั่นใจในการทำอะไรต่ออะไร และความทรงจำที่ดี แค่ตอนนี้ ฉันกลัวปีหน้า ฉันจะเป็นยังไง ขาดคนปรึกษา ขาดความมั่นใจ ขาดกำลังใจ ขาดความรัก จะพยายามผ่านชีวิตในแต่ละวันไปให้ได้นะ เหมือนเด็กหัดเดินอีกครั้งนะ มันก็คงล้มบ้าง คลานบ้างใช่มั้ย บางวันฉันคงยิ้ม บางวันคงร้องไห้ รักนะคนบนฟ้า Funny Bunny I love you. ความรักคือ ความสุข และความรักก็คือ ความทุกข์"
Yorkeys Knob, Queenland, Australia
Here is where you are. 

ผ่านมา 1 ปี ตอนนี้ก็ยังคงร้องไห้เมื่ออยู่คนเดียวเสมอๆ ยังคงเจ็บปวด ไม่แน่ใจว่าน้อยลงหรือเปล่า แต่ก็พูดถึงคุณให้คนอื่นฟังได้โดยไม่เสียน้ำตา   ภาพและเสียงของคุณยังชัดเจนเหมือนเดิม ไม่เคยเลือนลาง ยังคงคิดถึงทุกๆวัน   ไม่ว่า สถานะไหน  ตอนนี้ไม่มีคุณแล้ว ฉันก็ยังรักและคิดถึงทุกๆวัน เหมือนเดิม ยังคงคิดถึงคุณเมื่อต้องการกำลังใจ แล้วมันทำให้ฉันสามารถไปต่อได้   เข้มแข็งได้    มีความมั่นใจมากขึ้น  ตอนนี้ฉันได้เรียนรู้ว่า  พลังแห่งความรัก ความผูกพัน พลังด้านบวกของจิตใจ มันมีพลังที่ไม่จางหาย ตอนนี้ไม่มีคุณแล้ว พลังนั้นมันยังอยู่กับฉันตลอดเวลา ขอให้พลังนี้อยู่กับฉันตลอดไปนะ  ตลอด 1 ปีที่ผ่านมาฉันหัดเดิน จนตอนนี้ฉันเดินคล่องขึ้น ฉันวิ่งได้แล้ว ฉันไม่กลัวปีหน้าอีกต่อไป ปีนี้มันก็มีเหตุการณ์ที่ฉันต้องขอกำลังใจจากคุณ ฉันวิ่งมาราธอนครั้งที่ 3 การวิ่งมาราธอนของฉัน ไม่เคยง่ายสักครั้ง  ปวดเท้ามาก  ฉันคิดถึงคุณ  ฉันร้องไห้ขณะวิ่ง ฉันแข่งว่ายน้ำ 6 กม. ในทะเล ฉันคิดถึงคุณ ฉันไม่แน่ใจว่าจะว่ายจบหรือเปล่า ฉันขอให้คุณช่วยให้ฉันไปต่อได้ จากคำพูดที่คุณมักพูดเสมอว่า I am proud of you. ฉันก็คิดว่า  ฉันต้องทำให้ได้ แล้วฉันก็ทำได้

Yorkeys Knob, Queenland, Australia



ตลอดปีที่ผ่านมาฉันได้รู้ว่าใครบ้างที่สำคัญในชีวิต ใครบ้าง ที่ไม่ควรใส่ใจ ใครที่ไม่ควรเอาเข้ามาอยู่ในชีวิต   ฉันมี  ครอบครัวที่ดี  มีกัลยานิมิตรที่ดี ที่ทำให้ฉันผ่านชีวิตในแต่ ละวันไปได้ คนอ่อนแออย่างฉันมีคนอื่นๆ ช่วยพยุงตลอดมา ฉันเรียนรู้ที่จะเข้มแข็งด้วยตนเองให้ได้ยังไง เรียนรู้ที่จะอยู่คนเดียวให้ได้ เรียนรู้ที่จะกำจัดความทุกข์ และมีความสุขจากอะไรบ้าง

Funny Bunny จะปีใหม่ 2020 แล้วนะ ฉันไม่กลัวแล้ว ฉันพร้อมเผชิญสิ่งต่าง ๆ ที่จะเข้ามาในปีหน้า ขอให้มีแต่เรื่องดีๆ  เข้ามาในชีวิต Love you 💓นะ








ปี 2019 รู้สึกว่าวันเวลา ผ่านไปเร็วมาก แต่ละเดือนหมดไปอย่างรวดเร็ว เรื่องดี ๆ ของตัวเองในปีนี้มีอะไรบ้าง
1. Jan   กลับพังงาหาแม่ ไปเยี่ยมบิ๊ก  สวดมนตร์ข้ามปี  ไหว้พระและตักบาตรปีใหม่
2. Feb    ไปเยี่ยมเนวี่ที่เชียงราย ไปนอนบ้านยายพรรณ สนุกมาก
3. Mar  ไปเยี่ยมมอรีนและไปบ้านเด็กกำพร้าที่พัทยา
4. Apr   ย้ายเข้าบ้าน ขึ้นบ้านใหม่
5. May  ไปฮ่องกงครั้งที่ 2, แข่งไตรกีฬาครั้งที่ 5 สำเร็จ
6. Jun   วิ่งมาราธอนครั้งที่ 3 สำเร็จ
7. Jul    แข่ง adventure ที่กระบี่, ไปเกาหลี
8. Aug   ไปเยี่ยมรตาจ๋า,ไป Cameron highland,ถ่ายแบบชุดบิกินี่โดยทีมงานคุณภาพที่ภูเก็ต 😂
9. Sep    น้องมณีรับปริญญา
10. Oct    ได้เค้กวันเกิดเจ้าหญิงแสนสวย วันเกิดได้ไปหาของกินตอนเช้าที่สงขลากับน้องมณี, สมัคร  เรียนสาขาวิชาที่ชอบ
11. Nov   กลับบ้านพังงาได้เจอหลานๆ แม่ น้องๆ พร้อมหน้าพร้อมตา, ตัดผมสั้นทรงนักเรียน
12. Dec    แข่งว่ายน้ำ 6 กม. ในทะเล สำเร็จ (อันนี้เป็นเรื่องภูมิใจที่สุดของปี 2019 😄)

มองย้อนไป มีเรื่องดีๆ ที่ทำให้มีความสุขได้ทุกเดือน  ความสุขของเราเกิดจาก  การได้เจอครอบครัว   คนพิเศษ   ได้ใช้เวลากับเพื่อนสนิท  การได้ทำสิ่งที่ชอบ   ได้ท่องเที่ยว   ได้ช่วยเหลือคนที่ต้องการความช่วยเหลือ และการมีกัลยานิมิตรที่ดี  การมีสุขภาพแข็งแรง

วันอาทิตย์ที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2561

จิบกาแฟ แลหมอก หยอกตะวัน ณ ควนนกเต้น ภูบรรทัด


ทะเลหมอกควนนกเต้น

ธรรมชาติอันงดงาม ณ ภูบรรทัด

"ควนนกเต้น" เป็นสถานที่ท่องเที่ยวชมธรรมชาติแห่งใหม่ในจังหวัดพัทลุง ตั้งอยู่ที่ ต.คลองทรายขาว อ.กงหรา จ.พัทลุง ปัจจุบันเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวมากขึ้น เรารู้จักที่นี่จาก instagram ในรูปวิวสวยมาก จนอยากไปให้เห็นกับตา  เราเดินทางไปวันที่ 8-9 ธ.ค. 2561 เป็นฤดูฝนของภาคใต้ คนในพื้นที่แนะนำว่าช่วงปลายเดือนมกราคม-ต้นเดือนกุมภาพันธ์ เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดที่จะมาเที่ยวที่นี่ สำหรับการเดินทางเราไปตาม GPS ที่เจ้าของที่พักแชร์ให้   ทางเข้าไปยังจุดชมวิวควนนกเต้นจะมีป้ายบอก
ป้ายตรงทางเข้าไปจุดชมวิวควนนกเต้น
พอขับรถเข้าไปจะเจอทางแคบคอนกรีตบ้าง ลูกรังบ้าง ขับเข้าไปเรื่อยๆ จะเจอป้ายบอกทางไปควนนกเต้น เราขับรถไปยังลานจอดรถตรงตีนเขา ซึ่งตรงนี้นักท่องเที่ยวสามารถฝากรถไว้ที่นี่ได้ แล้วซื้อตั๋วไป-กลับ ราคา 60 บาท ขึ้นไปยังควนนกเต้น  รถให้บริการ เริ่มตั้งแต่ 5.00 น.   

นอกจากวิวสวยๆ ที่ควรค่าแก่การมาเยือนแล้ว   ยังมีร้านค้าให้บริการอาหารเช้าเป็นไข่กะทะ (ฮาลาล) และเครื่องดื่มอีกด้วย   เราสั่งอาหารเช้ามาทานและนั่งชมวิวรอพระอาทิตย์ขึ้นไปด้วย รู้สึกมีความสุขมากจริงๆ





ที่พัก

บ้านชายคลอง 089-7392646 , 084-3133514

เราพักที่ บ้านชายคลอง อยู่ริมคลอง ซึ่งตอนนี้มีให้บริการ 2 หลัง หลังหนึ่งเป็นบ้านที่มีแอร์ อีกหลังเป็นพัดลม พี่เจ้าของที่พักให้บริการดี ดูแลเป็นอย่างดี มีอาหารให้ 1 มื้อ สามารถเลือกได้ว่าจะกินมื้อเช้าหรือมื้อเย็น เราเลือกมื้อเย็น เป็นอาหารพื้นบ้าน อร่อยดีค่ะ อารมณ์เหมือนกินข้าวที่บ้าน เราซื้อผักกูดมาให้แม่ครัวทำผักกูดราดน้ำกะทิให้กินกับน้ำพริก ขอบอกว่ามันเป็นอร่อยมากจ้า !
บ้านชายคลอง


เหมือนกินข้าวบ้านที่ชานเรือน


ผักกูดราดน้ำกะทิที่อร่อยน่ะ :) 


น้ำพริกมะอึกก็อร่อย ถูกปากดีแท้

ที่พักอื่นๆ ในบริเวณใกล้เคียงจุดชมวิวควนนกเต้น 

ที่พักบนควนนกเต้นให้บริการเป็นบ้านพักและเต๊น 083-8918187 www.kuannokten.com

ริมผาโฮมสเตย์ 081-3689360

คำแนะนำเพิ่มเติม
เพื่อนๆ ที่รักการเดินป่าหรือนักวิ่งสายเทรลที่คิดว่าจะเดินขึ้นไปควนนกเต้นด้วยตนเอง เราคิดว่าไม่เหมาะเพราะทางขึ้นลงเป็นทางเดียวกัน ถนนแคบรถเดินได้ทางเดียว เมื่อมีรถมาแทบจะไม่มีไหล่ทางให้เดิน ยิ่งหน้าฝน ทางแฉะและอาจลื่นได้  แนะนำให้ใช้บริการรถขนนักท่องเที่ยวจะดีกว่า

สถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆในจังหวัดพัทลุงที่ไปแล้วประทับใจ
1.อุทยานนกน้ำทะเลน้อย
2.ตลาดสวนไผ่ อ.ควนขนุน เปิดให้บริการในวันเสาร์
3.ตลาดนัดใต้โหนด อ.ควนขนุน เปิดให้บริการในวันอาทิตย์



     จุดชมวิว "ควนนกเต้น" ควรค่าแก่การมาเยือน 
     ขอให้สนุกกับการเดินทางนะคะ 


วันพุธที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2560

เที่ยวปีนัง ทานข้าวเย็น ณ Long Beach Cafe , Batu Ferringhi







" ตะวันตกดิน หาอะไรกินดีกว่า
   ก๊วยเตี๋ยวหรือเครื่องเทศล้วนดีนา
   หรือจะกุ้ง หอย ปู ปลา ดูเข้าที "

กลอนนี้แต่งขึ้นเอง ไม่แน่ใจว่าถูกหลักภาษาไทยหรือเปล่า แต่แต่งตามความรู้สึกขณะที่หิวและกำลังจะไปหาอะไรกินมื้อเย็น  แหล่งของกินที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวที่ไปเที่ยวบาตูเฟอริงกิ คงหนีไม่พ้น  Long Beach Cafe ที่มีอาหารหลากหลายทั้งอาหารท้องถิ่นแบบจีนและอินเดีย เช่น ก๊วยเตี๋ยวผัด  หอยนางรมทอด (คิวยาว ถ้าอยากทานเมนูนี้แนะนำให้รีบสั่งทันทีที่ไปถึง) บะหมี่เกี๋ยวหมูแดง  ราดหน้า  ไก่ย่าง (อร่อยมาก กรอบนอก นุ่มใน หมักถึงเครื่อง) บะกุ๊ดแต๋ (ต้องมาเร็วนะคะ ประมาณ 19.00-20.00 ก็จะหมดแล้ว หรือหมดเลย ไปช้าอดแน่) ทะเลกระทะร้อน  ข้าวแกงอินเดีย อาหารทะเล และอาหารตะวันตก  อีกทั้งราคาย่อมเยาว์ เครื่องดื่มมีให้เลือกเยอะ แต่ขอแนะนำให้ลองชาเย็นนะคะ มันอร่อยมาก 👍

ชาเย็นแสนอร่อย

ร้านนี้ขอให้ลองสักครั้งในชีวิต

อร่อยมาก กรอบนอก นุ่มใน หมักถึงเครื่อง

จะกลับไปกินอีก

ร้านหอยทอดเจ้านี้คิวยาวนะจ้ะ ถ้าอยากทาน ให้รีบๆสั่ง 

หอยนางรมทอด

ร้านขายก๊วยเตี๋ยวผัดและราดหน้า ก็คิวยาว

ราดหน้าสไตล์ปีนัง

ร้านขายบะหมี่   ลักซา (laksa) และแพนเค้ก
บะหมี่แห้ง หมูแดง เกี๊ยว 


ปลาหมึกกระทะร้อน



วิธีสั่งอาหาร  ให้ไปหาโต๊ะนั่งก่อน และจำหมายเลขโต๊ะ  จากนั้นไปสั่งอาหาร ให้บอกหมายเลขโต๊ะ
คนขายจะเอาอาหารมาเซิร์ฟให้ที่โต๊ะ และเราก็จ่ายเงิน 

การเดินทาง
Long Beach Cafe อยู่ที่ไหน ไปยังไง ดูตามแผนที่เลยจ้า ได้ทำแลนมาร์คสำคัญๆไว้ให้ และคำนวณระยะทางคร่าวๆไว้ให้นะคะ ดังรูปค่ะ 

ระยะทาง โรงแรมฮาร์ดร๊อก-ลองบีชคาเฟ่ ประมาณ 1.2 กม.

ระยะทาง โรงแรมฮอลิเดย์อิน รีสอร์ท ปีนัง - ลองบีชคาเฟ่ ประมาณ 440 เมตร

ระยะทาง  รีสอร์ทโกลเด้นแซน - ลองบีชคาเฟ่ ประมาณ 270 เมตร 



วันอังคารที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2560

เที่ยวปีนัง ไปบาตูเฟอริงกิ (Batu Ferringhi) ง่ายนิดเดียว

ไม่แน่ใจว่าบาตูเฟอริงกิเป็นที่รู้จักมากแค่ไหนในหมู่นักท่องเที่ยวชาวไทย   ถ้าใครได้ไปเที่ยวปีนัง ประเทศมาเลเซีย หลายๆครั้ง หมายถึงเที่ยวใน George Town  แล้ว แต่ยังไม่ได้ไปเที่ยวบาตูเฟอริงกิสักที ก็เหมือนกับว่า ภารกิจยังไม่เสร็จสิ้น เพราะเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวบนเกาะปีนังที่น่าไปสำหรับการพักผ่อนอย่างแท้จริง

บาตูเฟอริงกิ หรือ Batu Ferringhi ( Batu แปลว่า แนวชายฝั่งที่เป็นหิน , Ferringhi แปลว่า ชาวต่างชาติจากตะวันตก) เป็นพื้นที่เลียบชายฝั่งทะเลที่มีแนวหาดยาวเป็นเส้นตรง อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของ George Town พื้นที่นี้ถูกค้นพบในปี ค.ศ. 1592 โดย Sir James Lancaster ปัจจุบันเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวปีนังและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่อยากจะหนีความวุ่นวายจากในเมืองสักระยะ เพื่อมาสัมผัสกับวิวภูเขา ไอทะเล อาหารอร่อย และวัฒนธรรมที่แตกต่าง






วันเดินทาง : 9-11 มิถุนายน 2560   ค่าเงิน : 1 MYR = 7.96 THB (www.xe.com)

เริ่มเดินทางกันเลยค่ะ เราเริ่มเดินทางจากหาดใหญ่ด้วยรถตู้ของบริษัท K.S.T travel อยู่ตรงข้ามโรงแรม Aloha ถนนนิพัทธ์อุทิศ 1 (สาย 1) ไปรถเที่ยว 9.30 น. ออกจากหาดใหญ่ ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง ถึง George Town (เวลาของมาเลเซียเร็วกว่าประเทศไทย 1 ชั่วโมง) ถึง George Town ประมาณ 14.30 น. ที่เวลาของประเทศมาเลเซีย                             






เนื่องจากเราต้องเดินทางต่อไปยังบาตูเฟอริงกิ รถตู้จอดให้เราลงที่ Komtar ตึกที่สูงที่สุดในปีนังใช้เป็นสำนักงานของหน่วยงานรัฐบาลและมีร้านขายของมากมาย นับว่าเป็นจุดศูนย์กลางของ George Town ใกล้กับห้างสรรพสินค้า  Prangin Mall ห้าง 1st Avenue และสถานีรถบัสที่เราต่อรถไปบาตูเฟอริงกิ 

Komtar

Where is Penang Bus Station?  สถานีรถบัสของปีนังอยู่ใกล้ห้าง Prangin Mall พยายามหาด้านหน้าของห้างให้ได้ แล้วจะเห็นสถานีรถบัสอยู่ตรงข้ามห้างเลย หาง่ายมาก ใช้รูปอธิบายดีกว่าค่ะ น่าจะช่วยให้หาเจอง่ายขึ้น 
ห้าง Prangin mall ตรงข้ามสถานีรถบัสที่จะต่อรถไปบาตูเฟอริงกิ


ก่อนขึ้นรถบัสในปีนังควรเตรียมเงินเหรียญหรือธนบัตร 1 ริงกิตไว้ เพราะการจ่ายเงินค่าตั๋วจะไม่มีการทอนเงินหากคุณไม่ได้เตรียมเงินไว้ให้พอดี

เรามารอรถไปบาตูเฟอริงกิที่ lane 1 ดูป้ายเส้นทางและจากที่รีวิวมาด้วยก็รู้ว่าต้องขึ้นรถหมายเลข 101 และตั๋วไปบาตูเฟอริงกิ ราคา 2.7 ริงกิต  การซื้อตั๋ว เริ่มจากเราบอกคนขับรถว่าเราจะไปที่ไหน แล้วเขาจะบอกราคาตั๋ว  จากนั้นเราก็หยอดเงินในช่องรับเงิน คนขับจะคอยดูตอนเราหยอดเงิน คนขับรถค่อนข้างช่วยเหลือนักท่องเที่ยวค่ะ 

           ป้ายบอกเส้นทางเดินรถ

Jalan แปลว่า ถนน

ราคาตั๋วไปบาตูเฟอริงกิ 

รถบัสหมายเลข 101 ผ่านห้าง Gurney 

ผ่านห้าง Island Plaza  ด้วยเช่นกัน 


ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เราไปบาตูเฟอริงกิ เราจะไปโรงแรมที่จองไว้ ที่ The bayview beach resort  ดูจากแผนที่ใน google map แล้ว คือโรงแรมอยู่ใกล้โรงแรม Hard Rock  เราบอกเพื่อนว่าให้ช่วยดู Hard Rock ทางด้านขวา  แต่พอนั่งรถบัสไปถึงบาตูเฟอริงกิ ณ จุดหนึ่ง คนขับตะโกนบอกว่า "บาตูเฟอริงกิ" เราก็คิดว่าเราคงต้องลงตรงนี้  บอกเพื่อนว่าคงลงตรงนี้แหละ พอลงมาแล้วหันซ้ายหันขวา คิดว่าไม่น่าลงเลยเพราะจากที่ดูในแผนที่เอาไว้ รถบัสต้องผ่านโรงแรมนั้นแน่ และเหลือบไปเห็นป้ายที่บอกว่า Hard Rock อีก 1.2 กม. เราลงที่บริเวณ Golden Sands Resort ค่ะ แถวนั้นใกล้กับแมคโดนัลและร้านขายของค่ะ เราบอกเพื่อนว่าคงต้องเดินไปอีกนิดนะ ไหวมั้ย เธอบอกไหว  แล้วเราก็แบกเป้หนักเดินท่ามกลางแดดร้อนจัดไปอีก  1.2 กม  เพื่อไปยัง Hard Rock  เดินไปเรื่อยๆ จนเจอ Hard Rock และโรงแรม the bayview beach resort ก็อยู่ติดกับ Hard Rock เลยค่ะ  เย้ ! เราถึงแล้ว เหงื่อชุ่มตัวและหิวน้ำ  แต่เราก็ยิ้มอย่างมีความสุข   เรานั่งรถจาก Komtar มาบาตูเฟอริงกิใช้เวลาประมาณ 45 นาทีค่ะ  

วันต่อมาได้สังเกตุเห็นป้ายรถบัสขาไปและกลับอยู่หน้าโรงแรม Hard Rock ค่ะ !   (^_^) 





                                              วิวทะเลยามเย็นด้านหลังโรงแรม 


แนะนำสถานที่ทานมื้อเย็นที่บาตูเฟอริงกิ ตามลิงค์เลยจ้า



วันเสาร์ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2559

จุดที่สูงที่สุดของฮ่องกง The Victoria Peak

Victoria peak เป็นจุดที่สูงที่สุดของเกาะฮ่องกง ใครที่มาฮ่องกงไม่ควรพลาด เพราะจะได้เห็นวิวสวยและสัมผัสอากาศดีๆ บนที่สูง ชีวิตดี๊ดีค่ะ ถ้าช่วงเมษาอุณหภูมิข้างบนน่าจะประมาณ  15-20 องศา ถ้าไปต้นปีแนะนำให้ใส่เสื้อผ้าแบบกันหนาวไปด้วยเพราะอากาศน่าจะหนาวกว่า 

เริ่มเดินทางกันดีกว่า ... สามารถไปได้ด้วยตัวเองง่ายๆ แนะนำให้ไปช่วงเช้า หากใครอยากไปต่อที่ Hongkong zoological and botanical garden หลังกลับจาก Victoria peak เพราะสวนนั้นอยู่ไม่ไกลจาก สถานีรถรางที่ขึ้นไป Victoria peak แต่ถ้าใครอยากเห็นวิวกลางคืนของเกาะฮ่องกงจากมุมสูงก็ไปช่วงเย็นได้ค่ะ   เอาล่ะมาเริ่มเดินทางกันดีกว่า  ถ้าคุณพักฝั่งเกาลูน ต้องนั่งเรือไปฝั่ง Central  นั่งเรือโดยสารจาก Star ferry pier  ท่าเรืออยู่ตรงไหน??
ให้เริ่มต้นจากบริเวณ Tsim Sha Tsui ค่ะ ก่อนอื่นให้หาโรงแรม Peninsula อยู่หัวมุมสุดสาย Nathan Road  ตรงข้ามโรงแรมเป็น Hongkong cultural center  ท่าเรืออยู่ถัดกับ Hongkong cultural center ในฝั่งเดียวกัน  พอถึงท่าเรือจะเห็นร้านขายของหลายร้านมีทั้งอาหารและของที่ระลึก  ซื้อตั๋วโดยสารจากเครื่องขายตั๋ว ให้เตรียมเหรียญไว้ด้วยค่ะ  ... เมื่อนั่งเรือข้ามมาฝั่ง central ได้แล้ว เดินออกมาจากท่าเรือนิดนึงจะเห็น Bus station  เราต้องนั่งรถบัสหมายเลข 15C หรือ 12S เพื่อที่จะไป สถานีรถรางที่จะขึ้นไป Victoria peak (peak tram lower terminus) เวลาเปิด-ปิด คือ 7 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน  แนะนำให้เลือกที่นั่งฝั่งขวามือของรถรางขาขึ้น จะเห็นวิวสวยกว่าทางด้านซ้ายค่ะ  ขอให้สนุกกับการเดินทางนะคะ 



ข้อมูลการเดินทาง
www.thepeak.com.hk
Bus: 15C,12S
Peak tram lower terminus: 33 Garden Rd, Central (working hour : 7am-midnight)



วันจันทร์ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

การเดินทางสู่ Mirador Mansion, Tsim Sha Tsui, Hongkong

อันนี้เป็นเรื่องเล่าย้อนหลัง เมื่อเดือนเมษายน ปี 2558 ได้เดินทางกับแม่ไปเที่ยวฮ่องกง เราจองตั๋วข้ามปีบินกับแอร์เอเชีย จองที่พักผ่าน Agoda   เราจองไว้ที่ Mira Inn  ที่อยู่ชั้น 8 ของตึก Mirador mansions เลขที่ 60-62 ถนน Nathan ย่าน Tsim Sha Tsui (ย่านdowntown)  อันนี้ดูข้อมูลไว้ก่อนล่วงหน้าแล้ว

เรื่องที่พักเก็บไว้ก่อน   จะเล่าตั้งแต่ลงจากเครื่องบินประมาณ 2 ทุ่ม เราก็เดินตามๆ พวกที่นั่งมาลำเดียวกันเพื่อไปเอากระเป๋า เดินไปเรื่อยก็จะต้องไปต่อแถวเพื่อต่อรถไฟ tranfer ของสนามบินไปยังที่รับกระเป๋า  จากนั้นก็หาทางออกจากสนามบิน ไปตามป้าย TO CITY จนหาป้ายรถบัสเจอซึ่งไม่ไกลจากอาคารสนามบินมาก หาง่ายค่ะ ที่ป้ายรถบัสมีเขียนไว้ชัดเจนว่าป้ายนี้สำหรับรถหมายเลขอะไร เราสองแม่ลูกขึ้นรถสาย A21  เพื่อมุ่งหน้าไป Tsim Sha Tsui  นั่งไปเรื่อยๆ ดูวิว ตึกรา บ้านช่องของฮ่องกงยามค่ำคืน ช้างเองก็หันไปดูคนรอบตัวในรถ เพราะจะถามว่าต้องนั่งนานแค่ไหนกว่าจะไปถึงที่พัก เพราะนั่งมาประมาณ 20 นาทีแล้วยังไม่เจอย่านเมืองเลย จึงหันไปถามคู่รักที่นั่งด้านหลัง พวกเขาไม่รู้แต่ก็พยายามช่วย  เอ๊ะ ทำไงดี เหลือบไปเห็นลุงชาวฮ่องกงยืนมองเราอยู่ ดูท่าทางอยากจะบอก เลยยื่นแผ่นกระดาษที่มีข้อมูลโรงแรมให้แกดู แกดูแล้วคงไม่แน่ใจ เลยใช้โทรศัพท์มือถือโทรหาโรงแรม เราก็ใจชื้นที่เจอคนใจดี หันไปดูหน้าแม่  แม่ยิ้มอ่อน  เมื่อคุณลุงคุยกับปลายสายได้ความ แกเลยบอกคนขับรถให้ เรากับแม่ขอบคุณ แกเป็นการใหญ่ แกยิ้มรับ และไม่ได้พูดอะไรต่อ  เรานั่งต่อไปประมาณ 30 นาที ก็เจอย่านเมือง รถวิ่งพลุกพล่านมากกว่าเดิม มีห้างร้านมากมาย คนเดินบนทางเท้าขวักไขว่   เราสังเกตป้ายถนนไปเรื่อยๆ จนถึง Nathan road  สักครู่รถบัสจอดให้เราสองแม่ลูกลงป้ายที่ประมาณ 60  เราสองคนลากกระเป๋าเดินมุ่งไปหา Mirador mansion  หาไม่เจอ เลยถามพนักงานหน้าร้านตรงทางเท้า เขาบอกให้เดินย้อนไป  เราไปเจอกลุ่มชายฉกรรจ์หน้าตาไปทางอินเดียหรือตะวันออกกลาง มองมาที่เรา ถามว่าเราต้องการความช่วยเหลือหรือเปล่า เราเลยบอกว่า เราหา Mirador Mansion  เขาก็ชี้ไปทางที่เราเพิ่งเดินผ่านมา ว่านั่นไง Mirador Mansion โถ! เราเดินผ่านมันมาได้ไง ตั้งหลายรอบ มันเป็นตึกที่ติดกับเส้นทางเท้าเลย มีช่องเดินเข้าไป มีป้ายตัวอักษรใหญ่ๆ MIRADOR MANSIONS ตรงทางเข้าเป็นร้านขายอุปกรณ์ถ่ายรูป เดินเข้าไปเรื่อยๆ จะเห็น Jenny Bakery  ทางด้านขวามือ และมีร้านขายของย่อยๆอีกหลายร้าน  แต่อาคารด้านในดูเก่าๆ รกๆ ถ้าไปคนเดียวอาจจะรู้สึกหวิวๆ  เราหาลิฟท์จนเจอและขึ้นไปชั้น 8 ตามแผนที่ ตอนนั้นเวลาประมาณ 4 ทุ่ม พอประตูลิฟท์เปิด โอ้ว!! ไหนโรงแรม

มิราดอร์แมนชั่น ด้านใน

เราคาดหวังว่าจะเจอ reception desk แต่ไม่!  บรรยากาศเหมือนหอพัก ที่มีหลายโซน และเดินไปไม่ถูกว่าจะไปโซนไหน  Mira Inn อยู่หนายยยยย  แม่เริ่มเงียบและเดินตาม มือหนึ่งลากกระเป๋า มือหนึ่งจับแขนช้าง  เราเดินไปหลายโซน เวลานั้นประตูเกือบทุกบานปิด  แต่ยังดีที่มีเสียงคนคุยกันจากห้องด้านใน มีคนเดินผ่านบ้าง จนเราเจอ Mira Inn  ที่มีป้ายบอก และประตูที่ดูแน่นหนาและต้องสแกนบัตรเข้า  เราเคาะประตู มีผู้หญิงโผล่หน้ามากึ่งหลับกึ่งติ่น ดูงงๆ เราบอกว่าเราคือคนที่จองห้องพักผ่าน Agoda จาก Thailand  เธอบอก What ? นิ่งไปพัก แล้วพูดว่า No No แล้วปิดประตู ........ใจสงัด นึกในใจ เอาไงดี  ตัดสินใจยื่นมือไปเคาะประตูอีกรอบ ยังเอื้อมไม่ถึงประตู ผู้หญิงคนนั้นก็เปิดประตู ขอดูกระดาษที่เราถืออยู่ จากนั้นเธอก็เชื้อเชิญเข้าไปในโรงแรม  เธอขอดูพาสปอต เราจ่ายค่ามัดจำบัตรผ่านเข้า-ออก 
เราขอ Wifi Password  Requested By แม่   ในที่สุดเราก็ได้เข้าห้องพัก  เราดีใจ เราถึงแล้ว   เราพักห้องเตียงเดี่ยว ในห้องมีทั้งแอร์และพัดลม มีน้ำอุ่น ห้องสไตล์ modern สวยดี   ห้องแคบ ตรงทางเดินระหว่างเตียง เราเดินสวนกันไม่ได้    คืนแรกในฮ่องกงเรานอนหลับสนิท อากาศหนาวกำลังดี เราภูมิใจที่เราถึงที่พักโดยสวัสดิภาพ  ขอบคุณแม่ที่อดทนและแข็งแรง
ห้องพักของเราสองแม่ลูก
 
บรรยากาศตอนเช้า วิวตึก


ช่างเย็บผ้าที่ Mirador Mansion